แกร็บ ผนึก ดีป้า และ Klasssi เปิดตัว ‘GrabAcademy powered by depa
แกร็บ ประเทศไทย จับมือ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า และพันธมิตรด้านการเรียนรู้ Klasssi powered by KBank เปิดตัวโครงการ “GrabAcademy powered by depa สร้างอาชีพกับมือโปร” ขนทัพแบบจัดเต็มกับคอร์สออนไลน์รวมกว่า 80 คอร์ส ตั้งแต่ทักษะภาษา การทำการตลาดออนไลน์ และพื้นฐานการบริหารธุรกิจ หวังพัฒนาความรู้และศักยภาพการแข่งขันพาร์ทเนอร์ร้านอาหาร-คนขับ ร้านค้าออนไลน์และประชาชนทั่วไป เสริมแกร่ง MSMEs ไทยสู่การทำธุรกิจยุคดิจิทัล
นางสาวจันต์สุดา ธนานิตยะอุดม ผู้อํานวยการฝ่ายการตลาด แกร็บ ประเทศไทย เผยว่า ด้วยพันธกิจของแกร็บ ที่ได้ยึดมั่นการดำเนินธุรกิจตามพันธกิจหลักที่เรียกว่า “Grab For Good” หรือ แกร็บ…เพื่อชีวิตที่ดีกว่า ซึ่งให้ความสำคัญกับการส่งเสริมและยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในสังคมไทย ซึ่งโครงการ GrabAcademy powered by depa สร้างอาชีพกับมือโปร ได้ถือเป็นหนึ่งในโครงการที่ถูกคิดขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์พันธกิจของแกร็บ โดยมุ่งมั่นในการส่งเสริมและเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการขนาดเล็ก พาร์ทเนอร์ร้านอาหารและคนขับแกร็บซึ่งถือเป็นกลุ่มคนทำงานอิสระ (Freelance) ให้สามารถใช้ประโยชน์สูงสุดจากเทคโนโลยีเพื่อสร้างโอกาสในการหารายได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย อีกทั้งยังสนับสนุนผู้ประกอบการขนาดเล็กโดยการให้ความรู้ด้านการทำการตลาดออนไลน์ในการทำธุรกิจให้สามารถเพิ่มยอดขายอย่างยั่งยืน และสามารถที่จะพัฒนาทักษะและเสริมศักยภาพในการแข่งขันเพื่อก้าวทันเศรษฐกิจในยุคดิจิทัล พร้อมการผนึกกำลังกับหน่วยงานสำคัญที่ส่งเสริมและสนับสนุนด้านการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล อย่าง สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า และพันธมิตรด้านการเรียนรู้ดิจิทัลอย่าง Klasssi powered by KBank ในการจัดทำคอร์สออนไลน์ที่เป็นประโยชน์ในการประกอบธุรกิจและสร้างรายได้กว่า 80 คอร์ส เพื่อช่วยอัพสกิลด้านดิจิทัลให้กับพาร์ทเนอร์ร้านอาหาร-คนขับ และร้านค้าออนไลน์ โดยตั้งเป้าภายในปี 2563 จะมีพาร์ทเนอร์คนขับ-ร้านอาหาร และร้านค้าออนไลน์เข้าร่วมกว่า 15,000 ราย
ด้าน ผศ. ดร. ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า หนึ่งในพันธมิตรผู้ให้การสนับสนุนด้านการผลิตสื่อการเรียนรู้ดิจิทัลของโครงการ ‘GrabAcademy powered by depa สร้างอาชีพกับมือโปร’ กล่าวว่า ปัจจุบัน การค้าออนไลน์ผ่านอีคอมเมิร์ซกลายเป็นทางเลือกที่ผู้ประกอบการไทยนำมาใช้ในการดำเนินธุรกิจ และสร้างการเติบโตอย่างก้าวกระโดดในยุคชีวิตวิถีใหม่ (นิวนอร์มอล) โดยปัจจัยสำคัญที่เป็นแรงสนับสนุนมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ที่เร่งให้เกิดการปรับตัวสู่ยุคดิจิทัลเร็วขึ้น
ทั้งนี้ ดีป้า ตระหนักดีว่า กลุ่มผู้ประกอบการขนาดเล็ก หรือ MSME คือหนึ่งในฟันเฟืองสำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ส่งผลให้ ดีป้า เร่งพัฒนาศักยภาพให้กับ MSME ผ่านการทำงานร่วมกับภาคเอกชนอย่าง แกร็บ และภาคประชาชน ในการเพิ่มขีดความสามารถทางธุรกิจ อีกทั้งเสริมศักยภาพการเรียนรู้และใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลในการประกอบอาชีพ นอกจากนี้ โครงการ GrabAcademy powered by depa สร้างอาชีพกับมือโปร ยังเปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปที่สนใจได้เข้ามาเรียนรู้ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนไทยเปลี่ยนผ่านสู่การเป็นพลเมืองดิจิทัล (Digital Citizen) เป็นส่วนช่วยให้ประเทศไทยสามารถก้าวเข้าสู่ยุคเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน สอดรับกับภารกิจสำคัญของ ดีป้า ในการส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิดการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในทุกมิติ
นอกจากการผนึกกำลังกับ ดีป้า แล้ว แกร็บ ประเทศไทย ยังได้ร่วมมือกับพันธมิตรด้านการเรียนรู้ อย่าง Klasssi powered by KBank ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการเรียนรู้ที่ถูกพัฒนาขึ้นโดยธนาคารกสิกรไทย เพื่อต่อยอดบริการด้าน Education Technology ในการสนับสนุนการให้ความรู้แก่สังคมในภาพธุรกิจองค์รวม ในหลายๆด้าน เช่น ด้านการเตรียมความพร้อมธุรกิจเพื่อรับมือวิกฤตและโอกาสใหม่ๆ ด้านการตลาดที่เน้นให้รู้จักการตลาดที่มีหัวใจรู้ใจลูกค้าผ่านดิจิทัลมาร์เก็ตติ้ง ด้านการพัฒนาตนเองผ่านเคล็ดลับบริหารจัดการตนเองเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน เป็นต้น
นางสาวหทัยพร เจียมประเสริฐ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เผยว่า “Klasssi (คลาส-ซี่) แพลตฟอร์มการเรียนรู้ของธนาคารกสิกรไทย มีเป้าหมายเพื่อขยายโอกาสการเข้าถึงความรู้ และมุ่งหวังยกระดับคุณภาพทักษะความสามารถให้แก่สังคม สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของธนาคารที่ต้องการเพิ่มอำนาจให้ทุกชีวิตและธุรกิจของลูกค้า ซึ่งรวมไปถึงในมุมของการสร้างความรู้ ทักษะ ที่สำคัญ เพื่อเป็นอีกฟันเฟืองในการส่งเสริมและสนับสนุนด้านการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล โดย Klasssi ในฐานะแพลตฟอร์มคอร์สเรียนออนไลน์ ที่ออกแบบให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่เป็น Digital Native มีจุดประสงค์ในการสร้างการเข้าถึงความรู้ได้ทุกที่ ทุกเวลา ผ่านช่องทางออนไลน์อย่างเว็บไซต์และแอปพลิเคชั่นของ Klasssi โดยเน้นไปที่ทักษะจำเป็นในปัจจุบันและอนาคต อย่าง Business Technology และ Human Skill สำหรับตลาดเศรษฐกิจ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในความเชี่ยวชาญของธนาคารกสิกรไทย ดังที่จะเห็นได้ว่า ในยุค New-Normal พฤติกรรมของผู้บริโภคได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วกว่าที่เคย ทำให้ผู้ประกอบการและแรงงานต้องปรับตัวให้รวดเร็วยิ่งขึ้น เพื่อเข้าถึงทุกช่วงเวลาของผู้บริโภค ซึ่ง Klasssi มุ่งมั่นที่จะเป็นแหล่งการเรียนรู้ที่ถูกพัฒนาจากความต้องการที่เกิดขึ้นจริงในตลาดเศรษฐกิจ การสร้างความรู้และทักษะใหม่ เพื่อส่งเสริมทักษะวิชาชีพ เพิ่มศักยภาพการทำธุรกิจและสร้างระบบการแบ่งปันความรู้อย่างทั่วถึงจึงได้เกิดเป็นความร่วมมือในโครงการ GrabAcademy powered by depa สร้างอาชีพกับมือโปร ขึ้นมาเพื่อเพิ่มการเข้าถึงองค์ความรู้ในวงกว้าง”
โครงการ “GrabAcademy powered by depa สร้างอาชีพกับมือโปร” ประกอบไปด้วยคอร์สออนไลน์เพื่อพัฒนาทักษะส่วนบุคคลและเสริมศักยภาพทางธุรกิจในด้านต่าง ๆ กว่า 80 คอร์ส อาทิ คอร์สพัฒนาทักษะภาษา อย่าง เรียนภาษาที่ 3 จากโลกออนไลน์ ปรับใช้เพิ่มฐานลูกค้าในยุคดิจิทัล การทำการตลาดออนไลน์ อย่าง เคล็ดลับอัพยอดขายด้วยภาพถ่ายที่ใช่ และเทคนิคการตลาดด้วยคอนเทนต์ รวมถึงทักษะพื้นฐานด้านการบริหารธุรกิจ อย่างการจัดทำบัญชี ความรู้ด้านภาษี และการพัฒนาด้านหัวใจการบริการ (Service Mind) เป็นต้น
นายภัคพงศ์ พึ่งกัน ผู้ก่อตั้งและเจ้าของร้านอาหาร “รสมือแม่” เผยว่า “หัวใจสำคัญของการทำธุรกิจคือการวางแผนที่ดีและควรมีการวางแผนทั้งระยะสั้นและระยะยาว เพื่อให้สามารถรับมือกับความไม่แน่นอนที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต ซึ่งการมีกระบวนการจัดการความรู้อย่างเป็นระบบจะช่วยเรื่องการวางแผนได้มากขึ้น GrabAcademy จึงมีส่วนช่วยจัดระเบียบองค์ความรู้ที่มีอยู่มากมายให้สามารถเรียนรู้ได้ง่าย สะดวก และนำไปใช้ได้จริง ในฐานะผู้ประกอบการร้านอาหารแม้ว่าเราจะมีหน้าที่ความรับผิดชอบหลายเรื่อง ทั้งการบริหารหน้าร้าน ระบบหลังบ้าน และการดูแลพนักงาน เเต่ก็จำเป็นต้องอัพเดทความรู้ของตนเองและความรู้รอบตัวโดยเฉพาะเรื่องเทคโนโลยีอยู่เสมอ ยิ่งในยุคนี้ที่พฤติกรรมของลูกค้าเปลี่ยนมาใช้บริการจากฟู้ดเดลิเวอรี่มากขึ้น หากเรามีความเข้าใจในระบบการทำงานเหล่านี้ก็จะยิ่งทำให้การบริหารร้านมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น”
นายธีรพัฒน์ เลิศสิริประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Kouen Sushi Bar ตัวแทนผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ GrabAcademy powered by depa สร้างอาชีพกับมือโปร กล่าวว่า “ในฐานะคนทำร้านอาหารและผู้ประกอบการธุรกิจมองว่าหนึ่งในหัวใจสำคัญคือการที่คอยพัฒนาทักษะในการต่อยอดธุรกิจและบริการให้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะร้านอาหารจะต้องมีการปรับตัวตามยุคสมัยที่ตอนนี้จะต้องผันตัวเองขึ้นมาอยู่บนแพลตฟอร์มส่งอาหาร (Food Delivery) เพื่อเพิ่มการเข้าถึงฐานลูกค้าใหม่ ๆ การทำการตลาดและคอนเทนต์ออนไลน์ ประกอบกับการนำเสนอเมนูอาหารใหม่ ๆ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปอยู่ตลอด ซึ่ง Kouen ก็ได้มีส่วนร่วมในการแชร์ประสบการณ์ในการทำร้านอาหารในโครงการ GrabAcademy เพื่อส่งต่อประสบการณ์และองค์ความรู้เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการร้านค้าคนอื่น ๆ ต่อไป”
นางสาววารินทร์ ถาวรประดิษฐ์ ตัวแทนพาร์ทเนอร์คนขับแกร็บ เผยว่า “หนึ่งในความท้าทายสำหรับคนทำงานในยุคปัจจุบันคือสถานการณ์ที่คาดไม่ถึง อย่างช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมาค่อนข้างส่งผลกระทบต่อรายได้จากหลักทำให้ต้องหันมาหารายได้เสริมจากการขับแกร็บที่มอบความอิสระในการทำงานที่จัดสรรเวลาได้ตามความเหมาะสม อีกทั้งรายได้จากการขับรับส่งอาหารกับแกร็บยังช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายได้เป็นอย่างดี ซึ่งจากการทำงานนี้มาระยะหนึ่งทำให้เล็งเห็นว่าทักษะ ด้านภาษาต่างประเทศมีความสำคัญมากในยุคปัจจุบัน เพื่อตอบสนองความหลากหลายผู้ใช้บริการทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติได้เป็นอย่างดี”