พฤหัส. พ.ย. 21st, 2024

ทิพยประกันภัย ร่วมอนุรักษ์กระบือไทย ในกิจกรรม “ทิพยสืบสาน รักษา ต่อยอด นวัตกรรมศาสตร์พระราชา ครั้งที่ 18”

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นางสาวตรีนุช เทียนทอง ร่วมเป็นประธานเปิดงาน “ทิพยสืบสาน รักษา ต่อยอด นวัตกรรมศาสตร์พระราชา ครั้งที่ 18” จัดโดย บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน)  และองค์กรภาคี ศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน) มูลนิธิประเทศไทยใสสะอาด สำนักโครงการและจัดการความรู้ (OKMD) กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สมาคมนักเรียนเก่า AFS ประเทศไทย  และมูลนิธิธรรมดี โดยให้ความสำคัญกับการเรียนรู้ด้านการทำเกษตรกรรม เป็นการนำคณะครูอาจารย์ที่ได้รับการคัดเลือกจากทั่วประเทศลงพื้นที่ร่วมประสบการณ์ทำการเกษตรปลูกข้าวทำนา  พร้อมร่วมอนุรักษ์กระบือไทย ส่งเสริมประเพณีการสู่ขวัญควายที่มีมาแต่โบราณ ร่วมไถ่ชีวิตกระบือรวม 24 ชีวิต หนึ่งในนั้นเป็นกระบือเผือก เพศผู้ลักษณะดี จึงได้ยื่นเรื่องเสนอทูลเกล้าฯถวายเป็นกระบือทรงเลี้ยง ณ โครงการโรงเรียนกาสรกสิวิทย์ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.สระแก้ว หนึ่งในโครงการที่ได้ถูกคัดเลือกอยู่ในหนังสือเดินทางตามรอยพระราชา โดยศูนย์คุณธรรมร่วมกับองค์กรภาคี จัดทำสรุป 9 เส้นทาง 81 แหล่งเรียนรู้ศาสตร์พระราชา

โรงเรียนกาสรกสิวิทย์ จังหวัดสระแก้ว เกิดขึ้นโดยพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้มูลนิธิชัยพัฒนาจัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นโรงเรียนสำหรับฝึกกระบือให้สามารถไถนาและทำงานด้านเกษตรกรรมและสอนผู้ที่ต้องการใช้กระบือทำการเกษตรให้สามารถทำงานร่วมกับกระบือได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถดูแลกระบือให้มีสุขภาพแข็งแรง และยังเป็นสถานที่ที่ให้ความรู้กับประชาชนในเรื่องวิถีชีวิตความเป็นอยู่แบบพื้นบ้านที่เรียบง่ายและการใช้ชีวิตแบบพอเพียงตามแนวพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ ๙  กาสรแปลว่าควายหรือกระบือ ส่วนกสิวิทย์คือความรู้สำหรับการกสิกรรม เกษตรกรและผู้ที่เข้ามาศึกษาหาความรู้ในโรงเรียน สามารถนำความรู้ไปปรับใช้ในการดำเนินชีวิต ช่วยกันดูแลสภาพแวดล้อม รักษาธรรมชาติ สามารถอยู่ร่วมกันอย่างเกื้อกูลและพึ่งพิงกันได้ตลอดไป

จากข้อมูลกรมปศุสัตว์ปัจจุบันสถานการณ์กระบือทั่วประเทศในปี 2564 มีจำนวน 1.5 ล้านตัว  โดยมีปริมาณลดลงจากปี 2540 ที่มีจำนวนควายประมาณ 2.2 ล้านตัวทั่วประเทศ เนื่องจากวิถีชีวิตของเกษตรกรได้เปลี่ยนไปจากการใช้แรงงานกระบือมาใช้อุปกรณ์เครื่องมือไถนา อย่างไรก็ตามได้มีการพัฒนาผลิตกระบือคุณภาพและการจัดการดูแลพัฒนาพันธุ์กระบืออย่างจริงจัง เป็นการส่งเสริมการผลิตกระบือสู่ท้องตลาด เพื่อเป็นแรงจูงใจให้เกษตรกรสร้างรายได้จากการขายกระบือเพื่อการบริโภคทดแทนการใช้งาน

นางวิชชุดา ไตรธรรม ที่ปรึกษากรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “เกษตรกรรมเป็นสิ่งสำคัญต่อทั้งวิถีชีวิตและเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งทุกวันนี้วิถีชีวิตของเกษตรกรปรับมาเป็นเกษตรดิจิทัลที่ใช้นวัตกรรมเครื่องมือการจัดการที่ทันสมัย แทนการใช้แรงงานควาย  แต่เราต้องไม่ลืมพื้นฐานดั้งเดิมการทำนาของชาวนาไทย และคู่บุญชาวนา คือ “ควาย” หรือกระบือ สัตว์เลี้ยงที่ทำประโยชน์สร้างรายได้ให้กับชาวนา การได้มาศึกษาเรียนรู้การฝึกกระบือและการไถนาที่โรงเรียนกาสรกสิวิทย์ จึงเป็นการดำรงไว้ซึ่งวัฒนธรรมประเพณี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “พิธีสู่ขวัญควาย” เพื่อแสดงการขอบคุณและขอขมา เป็นประเพณีที่มีมาแต่โบราณและไม่มีอีกแล้วในปัจจุบัน เป็นสิ่งที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์เพื่อให้คนรุ่นหลังได้ตระหนักถึงความสำคัญของกิจกรรมที่แสดงออกถึงความกตัญญูรู้คุณและความเมตตากรุณาที่เป็นคุณธรรมสำคัญในการใช้ชีวิตทุกวันนี้  ซึ่งทิพยประกันภัยห่วงใยทุกชีวิตในสังคม  กับโครงการ ทิพยทำความดีไม่มีสิ้นสุด พร้อมช่วยเหลืออนุรักษ์กระบือไทย ให้ยังคงอยู่คู่บ้านเมืองของเรา”

ครูอาจารย์ที่เข้าร่วมกิจกรรม ทิพยสืบสาน รักษา ต่อยอด นวัตกรรมศาสตร์พระราชา ครั้งที่ 18 นอกจากจะได้ร่วมทำกิจกรรมการฝึกกระบือเพื่อทำการเกษตร การทำบ้านดิน การหว่านข้าว ทำพิธีสู่ขวัญควาย ยังได้มีส่วนร่วมในการสร้างบุญการไถ่ชีวิตกระบือ 28 ชีวิต ลูกในท้อง 6 ชีวิต รวมทั้งหมด 34 ชีวิต โดยมูลนิธิธรรมดี มูลนิธิพุทธภูมิธรรมและเครือข่ายปุญภาคี ผู้มีหัวใจแห่งพระโพธิสัตว์ ในจำนวนนี้มีกระบือเผือก 1 ตัว เพศผู้ อายุ 4 ปี ชื่อ “แก้ว” ซึ่งมูลนิธิฯ ทำเรื่องขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายเป็นกระบือทรงเลี้ยงคู่กับคุณเผือก ในโรงเรียนกาสรกสิวิทย์  สำหรับกระบือที่เหลือรับมอบโดย พ.อ. สุชญาณ ศรีตระกูล รอง ผบ.มทบ. 19 เพื่อนำไปปรับปรุงพันธุ์ขยายพันธุ์ และอนุรักษ์ไว้ต่อไป

รศ. น.พ. สุริยเดว ทรีปาตี ผู้อำนวยการศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน) กล่าวเสริมว่า บทบาทของศูนย์คุณธรรม คือการส่งเสริมและขับเคลื่อนเครือข่ายทางสังคมด้วยองค์ความรู้และนวัตกรรมสู่สังคมคุณธรรม และพร้อมสนับสนุนกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมและชุมชนให้ได้เข้าใจถึงคุณธรรม 5 ประการ คือ พอเพียง วินัย สุจริต จิตอาสา และกตัญญู การที่ครูอาจารย์ได้มาร่วมทำกิจกรรมการทำการเกษตรที่โครงการโรงเรียนกาสรกสิวิทย์ จ.สระแก้ว นับว่าเป็นประสบการณ์การเรียนรู้คุณธรรมได้ครบทุกมิติ พร้อมคาดหวังให้นำไปใช้ปฏิบัติจนเกิดเป็น“วิถีชีวิต”ต่อไป

ด้าน ดร. ดนัย จันทร์เจ้าฉาย  ประธานมูลนิธิธรรมดี กล่าวว่า “ความสัมพันธ์ระหว่าง “คนกับควาย” ที่มีมาช้านาน เป็นเรื่องราวที่น่าประทับใจและสามารถนำมาใช้ในการพัฒนาจิตใจของคน การสอนกระบือให้เรียนรู้เพื่อให้สามารถช่วยชาวนาทำงานได้นั้น ไม่ใช่เฉพาะกระบือนั้นที่ถูกฝึก แต่ถ้ามองให้ลึกลงไป ผู้ที่จะได้ประโยชน์จากการสอนควายให้เป็นงาน คือ “คน” ที่จะได้ทั้งความผูกพัน ความเป็นเพื่อน ความกตัญญู ความเมตตา ความเห็นอกเห็นใจ คือ “ควายสอนคน” เป็นความสัมพันธ์ด้านจิตวิญญาณที่สร้างให้เกิดความรักสามัคคีในครอบครัวไปถึงชุมชนและสังคม ซึ่งส่งผลต่อเนื่องไปถึงชาติบ้านเมือง เราจึงควรดำรงรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีที่เกี่ยวข้องกับการดำรงชีพ ไปจนถึงรุ่นลูกหลานให้มีความเข้าใจและภาคภูมิใจในความเป็นไทย พร้อมกับน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของในหลวงรัชกาลที่ ๙ ที่ทรงวางรากฐานของความพอเพียงช่วยให้เรารอดพ้นจากวิกฤติต่าง ๆ มาได้จนถึงทุกวันนี้”

นอกจากกิจกรรมลงพื้นที่แล้ว อาจารย์อดุลย์ ดาราธรรม นายกสมาคมนักเรียนเก่า AFSประเทศไทย ให้เกียรติเป็นวิทยากร จัดกิจกรรมถอดบทเรียนตามรอยนวัตกรรมศาสตร์พระราชาสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนระดับสากล ผ่านเกมกระดานสื่อการเรียนรู้ (Board Game) 3 แบบ ได้แก่ “Game of Our Nation” “9 ตามรอยนวัตกรรมของพ่อ ศาสตร์พระราชาสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนระดับสากล” และ “The King’s Journey: Learn English an Example of an Invention” ซึ่งคณะครูอาจารย์สามารถนำนวัตกรรมการเรียนรู้ไปต่อยอดการเรียนการสอนสำหรับเยาวชนต่อไป

โครงการ “ทิพยสืบสาน รักษา ต่อยอด นวัตกรรมศาสตร์พระราชา” จัดมาต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2561 เพื่อสนองตามพระปฐมบรมราชโองการ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว “เราจะสืบสาน รักษา  ต่อยอด และครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งอาณาราษฎรตลอดไป”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องที่ต้องการถูกทำเครื่องหมาย *