อาทิตย์. พ.ย. 24th, 2024

เจาะลึกตำนาน Honda Rebel Series และการถือกำเนิดของ Rebel 1100

หากนึกถึงรถจักรยานยนต์ในสไตล์ Bobber ที่ได้รับการกล่าวถึงมาอย่างยาวนาน จนกลายเป็นตำนานของโลกสองล้อ ชื่อของ Honda Rebel จะต้องเป็นหนึ่งในดวงใจของใครหลายคนอย่างแน่นอน

Honda Rebel รุ่นแรกถือกำเนิดขึ้นในปี 1985 ในยุคที่รถสไตล์ครุยเซอร์กำลังครองเมือง โดยฮอนด้าได้เปิดตัว Rebel ในรหัส CMX250 วางเป้าหมายหวังขยายตลาดสู่กลุ่มนักบิดรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบรถสไตล์นี้

Honda Rebel ภายใต้รหัส CMX250 มาพร้อมเครื่องยนต์พิกัด 250 ซีซี ให้การขับขี่ที่นุ่มนวล แม้แต่มือใหม่ก็ขี่ได้ไม่ยาก ช่วงระหว่างปี 1985-1996 Honda Rebel จึงกลายเป็นครุยเซอร์หนึ่งเดียวจากญี่ปุ่น ที่สามารถยืนหยัดต่อกรกับเหล่าตัวเลือกรถครุยเซอร์สัญชาติอเมริกันได้อย่างสูสีถึงขนาดที่ว่านิตยสารชั้นนำในยุคนั้นอย่าง Motorcyclist ยังยกย่องให้ Honda Rebel เป็นรถจักรยานยนต์ที่มีความสมบูรณ์แบบรุ่นหนึ่งในยุค 80s เลยทีเดียว

ตลอด 3 ทศวรรษที่ผ่านมา ฮอนด้าได้พัฒนา Rebel ออกมาอีกหลายรุ่น จนถึงยุคโมเดิร์นในปี 2016 ฮอนด้าเปิดตัว Rebel 300 และ Rebel 500 พร้อมปรับโฉมตัวรถให้ดูร่วมสมัยมากขึ้นในสไตล์ Custom Bobber พร้อมกับเครื่องยนต์ที่ใหญ่ขึ้นเพื่อตอบโจทย์การใช้งานในรูปแบบทัวริ่งได้มากขึ้น ก่อนจะมีการปรับดีไซน์เพิ่มความทันสมัยพร้อมติดตั้งเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้าไปในปี 2020

ล่าสุด Honda ได้เปิดตัว New Honda Rebel 1100 รถบิ๊กไบค์ในสไตล์ Custom Bobber ออกสู่ตลาดโลก โดยถูกวางตำแหน่งให้เป็นรถเรือธงของตระกูล Rebel Series ทั้งหมด ตัวรถพัฒนาขึ้นภายใต้คอนเซปต์ “Ride Your Rule ขบถ…เพื่อกำหนดนิยามใหม่” โดยมีจุดเด่นอยู่ที่ความลงตัวของขุมพลังจากเครื่องยนต์ขนาด 1,100 ซีซี 2 สูบเรียง ระบายความร้อนด้วยน้ำ ผสานรูปลักษณ์ของรถที่ให้ความดิบ ดุดัน และความเท่อย่างลงตัว

New Honda Rebel 1100 ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีเพื่อการขับขี่ของไบค์เกอร์ยุคใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการติดตั้ง Assist Slipper Clutch ในรุ่น MT หรือเลือกสนุกไปกับเทคโนโลยี Dual Clutch Transmission ในรุ่น DCT ก็ได้ ควบคุมแม่นยำทุกครั้งที่ขับขี่ด้วยระบบคันเร่งไฟฟ้าที่มาพร้อมการขับขี่ 4 โหมด ขับขี่สนุก มั่นใจในการปลดปล่อยความแรงด้วยระบบ Wheelie Control ป้องกันล้อหน้ายกขณะบิดคันเร่ง และรองรับการเดินทางไกลด้วยระบบ Cruise Control ควบคุมความเร็วได้ตามต้องการ

New Honda Rebel 1100 แบ่งเป็นสองรุ่นย่อย โดยรุ่น MT วางจำหน่ายด้วยราคา 399,000 บาท และรุ่น DCT ราคา 429,000 บาท ผู้สนใจสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการ ฮอนด้า บิ๊กวิง ทั่วประเทศ หรือช่องทางออนไลน์ที่

เว็บไซต์ : www.hondabigbike.com
เฟซบุ๊กรถจักรยานยนต์ฮอนด้าบิ๊กไบค์ : fb.com/HondaBigBikeTH
อินสตราแกรม : hondabigbike

#NewHondaRebel1100 #Rebel1100 #Rebel #RebelHistory #Honda #HondaBigBike #ExcitesTheWorld #WhatStopsYou #มุ่งไปอย่าให้อะไรมาหยุด #Honda #HondaMotorcycle #รถจักรยานยนต์ฮอนด้า

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องที่ต้องการถูกทำเครื่องหมาย *