เสาร์. พ.ย. 23rd, 2024

ฮอนด้า ยกระดับความพรีเมียมของ ฮอนด้า แอคคอร์ด เติมเต็มฟังก์ชันการใช้งาน และ Honda SENSING ครอบคลุมทุกรุ่นย่อย

บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เสริมความคุ้มค่าให้ ฮอนด้า แอคคอร์ด ตอกย้ำเส้นทางแห่งผู้นำด้านยนตรกรรมที่เปี่ยมด้วยเทคโนโลยีอันล้ำสมัย ทั้งด้านการขับเคลื่อนขุมพลังเทอร์โบและฟูลไฮบริด และด้านความปลอดภัย มอบความมั่นใจในทุกการเดินทางด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda SENSING) ซึ่งได้ติดตั้งเป็นมาตรฐานในทุกรุ่นย่อย อีกทั้งเพิ่มฟังก์ชันการใช้งานระดับพรีเมียมและเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกสบายที่ครบครัน ครอบคลุมทุกรุ่นย่อย อาทิ ไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย กระจกมองหลังปรับลดแสงอัตโนมัติ ม่านบังแดดกระจกข้างด้านหลัง ช่องเชื่อมต่อ USB ด้านหลัง 2 ตำแหน่ง และเทคโนโลยีที่เชื่อมต่อเพื่อการสื่อสารระหว่างผู้ขับขี่และรถยนต์ Honda CONNECT พร้อมตอบสนองไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย เติมเต็มความต้องการของลูกค้าได้อย่างสมบูรณ์แบบในราคาที่คุ้มค่า เริ่มต้นที่ 1,499,000 บาท ใน แอคคอร์ด รุ่น EL และแนะนำ แอคคอร์ด e:HEV ที่มาพร้อมเอกลักษณ์ของยนตรกรรมไฮบริด ด้วยโลโก้ H Mark ตกแต่งกรอบสีฟ้า และสัญลักษณ์ e:HEV มอบอากาศบริสุทธิ์ด้วยเทคโนโลยีระบบฟอกอากาศในห้องโดยสาร พลาสม่าคลัสเตอร์ (Plasmacluster Technology) โดยราคาจำหน่ายรุ่น e:HEV EL+ 1,639,000 บาท และรุ่น e:HEV TECH 1,799,000 บาท หมดกังวลด้านการบำรุงรักษา การันตีความมั่นใจในการใช้งานด้วยการรับประกันอายุการใช้งานแบตเตอรี่ไฮบริดถึง 10 ปี และรับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง* ฟรีค่าแรงในการเช็กระยะเป็นเวลา 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร* (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) พร้อมด้วยโปรแกรมการให้บริการพิเศษด้านคุณภาพรถยนต์ ฮอนด้า อัลติเมท แคร์* (Honda Ultimate Care) และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินนอกสถานที่ 24ชั่วโมง (Honda 24hr Roadside Assistance)

ฮอนด้า แอคคอร์ด ทุกรุ่นย่อย มาพร้อมมาตรฐานความปลอดภัยอันล้ำสมัยกับเทคโนโลยีความปลอดภัยอัจฉริยะ ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda SENSING) ซึ่งเป็นการผสานการทำงานของเรดาร์และกล้องด้านหน้า ในการตรวจจับสภาวะแวดล้อมบนท้องถนนและช่วยแจ้งเตือนผู้ขับขี่รวมทั้งควบคุมรถ มอบความมั่นใจในทุกการเดินทาง ได้แก่

  • ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS)

  • ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ (Adaptive Cruise Control with Low-Speed Follow: ACC with LSF)

  • ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning: RDM with LDW)

  • ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS)

  • ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB)

 

เสริมด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยระดับพรีเมียมในรุ่น e:HEV TECH อาทิ

  • ระบบเตือนเมื่อมีรถเคลื่อนผ่านขณะถอย (Cross Traffic Monitor: CTM)

  • ระบบกล้องมองภาพรอบทิศทาง (Multi-view Camera System: MVCS)

  • ระบบช่วยจอดอัจฉริยะพร้อมระบบช่วยเบรก (Honda Smart Parking Assist System)
Honda LaneWatch
Driver Attention Monitor

พร้อมด้วยมาตรฐานความปลอดภัยอันล้ำสมัยอื่น ๆ เช่น ระบบเบรกมือไฟฟ้า (Electric Parking Brake) และระบบ Auto Brake Hold  ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Honda LaneWatch)  ระบบช่วยเตือนความเหนื่อยล้าขณะขับขี่ (Driver Attention Monitor) ระบบล็อกรถอัตโนมัติเมื่อกุญแจรีโมทอยู่ห่างจากตัวรถ (Walk Away Auto Lock)

ดีไซน์ภายนอกสปอร์ตพรีเมียม โดดเด่นด้วยเส้นสายที่ปราดเปรียวและเฉียบคม ผสานความหรูหราและความสปอร์ตไว้อย่างลงตัว โดยทุกรุ่นมาพร้อมกระจังหน้าแบบโครเมียมที่เชื่อมต่อกับไฟหน้าและไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED ไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED และไฟท้ายแบบ LED เสริมความสปอร์ตยิ่งขึ้นด้วยท่อไอเสียคู่พร้อมปลอกท่อไอเสียสเตนเลส (เฉพาะรุ่น EL)

ตอกย้ำเอกลักษณ์อันโดดเด่นของยนตรกรรมไฮบริดใน แอคคอร์ด e:HEV ด้วย โลโก้ H Mark ตกแต่งกรอบสีฟ้า และสัญลักษณ์ e:HEV ที่ด้านท้าย มาพร้อมล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตขนาด 17 นิ้วในรุ่น EL และขนาด 18 นิ้วในรุ่น e:HEV เสริมความสปอร์ตด้วยสปอยเลอร์หลัง และเพิ่มสุนทรียภาพในการเดินทางด้วยซันรูฟพร้อมระบบ One-Touch (เฉพาะรุ่น e:HEV TECH)

ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง โปร่งโล่ง ผสานดีไซน์ความหรูหราและประณีตไว้ได้อย่างลงตัว ด้วยเบาะหนังดีไซน์พรีเมียมสีน้ำตาลและสีดำ พร้อมชุดตกแต่งลายไม้ มอบความสะดวกสบายสุดเอกซ์คลูซีฟด้วยเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกล้ำสมัยที่ครบครัน สมบูรณ์แบบในทุกการเดินทาง อาทิ ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ Dual Zone ปรับอุณหภูมิแยกอิสระซ้าย/ขวา พร้อมเทคโนโลยีระบบฟอกอากาศพลาสม่าคลัสเตอร์ (Plasmacluster Technology) (เฉพาะรุ่น e:HEV EL+ และ e:HEV TECH)  ระบบแสดงข้อมูลบนกระจกหน้า (Head-up Display: HUD) (เฉพาะรุ่น e:HEV TECH)  มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 7 นิ้ว  ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้วแบบ Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อ  Apple CarPlay และระบบสั่งการด้วยเสียง SIRI เบาะนั่งด้านคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมปุ่มปรับดันหลัง 4 ทิศทาง  ระบบบันทึกตำแหน่งเบาะนั่งของผู้ขับขี่พร้อมเลื่อนอัตโนมัติเวลาขึ้น-ลงรถ (Memory Seat with Easy Entry/Exit) พร้อมตอบรับทุกไลฟ์สไตล์ด้วยฟังก์ชันการใช้งานระดับพรีเมียมที่เพิ่มเติมเข้ามาให้ครบครันในรุ่นเริ่มต้น (รุ่น EL) อาทิ

  • อุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger)
  • กระจกมองหลังปรับลดแสงอัตโนมัติ (Auto Dimming Rearview Mirror)
  • ม่านบังแดดกระจกข้างด้านหลัง (Rear Door Window Sunshades)
  • ช่องเชื่อมต่อ USB ด้านหลัง 2 ตำแหน่ง (2 Rear USB Ports)
  • Honda CONNECT เทคโนโลยีที่เชื่อมต่อเพื่อการสื่อสารระหว่างผู้ขับขี่และรถยนต์ ทำงานผ่าน
    แอปพลิเคชันบนสมาร์ตโฟน

ฮอนด้า แอคคอร์ด มาพร้อมกับ 2 ขุมพลังการขับเคลื่อนประสิทธิภาพสูง ได้แก่

  • รุ่น EL ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังเทอร์โบ เครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร Di VTEC TURBO ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า ตอบสนองทันใจด้วยแรงบิดสูงสุด 243 นิวตัน-เมตร จากเทคโนโลยีไดเรคอินเจคชัน (Direct Injection) ประสานการทำงานกับระบบเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่อง (CVT) ให้สมรรถนะการขับขี่ที่ทรงพลังกว่าเครื่องยนต์ 2.4 ลิตร ขับสนุก อัตราเร่งทันใจ และมีอัตราการประหยัดน้ำมันที่ 16.4 กิโลเมตร/ลิตร อีกทั้งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และรองรับน้ำมัน E85

  • รุ่น e:HEV ที่มาพร้อมระบบขับเคลื่อนฟูลไฮบริด Sport Hybrid Intelligent Multi-Mode Drive (i-MMD) เป็นการทำงานอันทรงพลังของเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร Atkinson-Cycle DOHC i-VTEC 4 สูบ
    16 วาล์ว ผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว
    ได้แก่ มอเตอร์ที่ทำหน้าที่สร้างกระแสไฟฟ้า (Motor Generator) และมอเตอร์ที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนล้อ (Motor Drive) พร้อมด้วยเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน มอบกำลังสูงสุด 215 แรงม้า จากเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า ตอบสนองทันใจด้วยแรงบิดสูงสุด 315 นิวตัน-เมตร โดยมีอัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยมสูงถึง 24.4 กิโลเมตร/ลิตร อีกทั้งปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่ำเพียง 97 กรัม/กิโลเมตร โดยระบบสามารถปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่ได้อย่างชาญฉลาดถึง 3 โหมด ได้แก่ โหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Drive Mode) โหมดการขับขี่ด้วยระบบไฮบริด (Hybrid Drive Mode) และโหมดการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ (Engine Drive Mode) อีกทั้งผู้ขับขี่สามารถกดสวิตช์เลือกควบคุมโหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Mode) เพื่อเข้าสู่โหมดการขับขี่ที่ใช้กำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้าในการขับเคลื่อนได้อีกด้วย

นอกจากนี้ ฮอนด้า แอคคอร์ด ยังมาพร้อมโหมดการขับขี่แบบสปอร์ต (Sport Mode) ที่จะช่วยให้ผู้ขับขี่เข้าถึงอารมณ์สปอร์ตได้อย่างแท้จริง ตอบสนองอัตราเร่งได้อย่างเร้าใจ โดยสามารถใช้งานได้อย่างง่ายดายเพียงกดปุ่ม SPORT ที่อยู่บริเวณด้านล่างของคันเกียร์ โดยสัญลักษณ์ SPORT จะแสดงขึ้นบนมาตรวัดในขณะที่ใช้ระบบ หรือเลือกใช้ระบบ ECON Mode ที่ช่วยลดการใช้พลังงานที่สิ้นเปลือง โดยจะปรับการทำงานของเครื่องยนต์และระบบเกียร์ให้สัมพันธ์กัน อีกทั้งปรับการทำงานของระบบปรับอากาศและการหมุนเวียนอากาศภายในห้องโดยสารให้เหมาะสม ทำให้เครื่องยนต์ใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

มอบประสบการณ์การขับขี่ยนตรกรรมระดับพรีเมียมได้อย่างมั่นใจ ด้วยมาตรฐานการบริการหลังการขายที่มีคุณภาพจากโชว์รูมและศูนย์บริการฮอนด้าทั่วประเทศ หมดกังวลด้านการบำรุงรักษา กับค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาในระยะเวลา 5 ปีหรือ 100,000 กิโลเมตร* รวมเริ่มต้นเพียง 23,196 บาท* อีกทั้งฟรีค่าแรงในการเช็กระยะเป็นเวลา 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร* (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน)  พร้อมด้วยโปรแกรมการให้บริการพิเศษด้านคุณภาพรถยนต์ ฮอนด้า อัลติเมท แคร์ (Honda Ultimate Care) ขยายการรับประกันคุณภาพรถยนต์ใหม่โดยเพิ่มระยะเวลาอีก 2 ปี หรือระยะทาง 40,000 กิโลเมตร ต่อจากระยะเวลาหรือระยะทางการรับประกันคุณภาพรถยนต์ใหม่ 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตรแรกสิ้นสุดลง รวมสูงสุด 5 ปี หรือ 140,000 กิโลเมตร (อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน) และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินนอกสถานที่ 24 ชั่วโมง (Honda 24hr Roadside Assistance) เสริมความมั่นใจยิ่งขึ้นใน แอคคอร์ด e:HEV ด้วยการรับประกันอายุการใช้งานแบตเตอรี่ไฮบริดถึง 10 ปี และรับประกันระบบไฮบริดทั้งระบบ 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง*

ฮอนด้า แอคคอร์ด ทุกรุ่น มาพร้อมสีภายนอกทั้งหมด 4 สี ได้แก่ สีใหม่ สีเทาเมทิเออรอยด์ (เมทัลลิก)
สีขาวแพลทินัม (มุก) และ สีดำคริสตัล (มุก) ที่มาพร้อมสีภายในห้องโดยสารสีน้ำตาล และสีเงินลูนาร์ (เมทัลลิก) ที่มาพร้อมสีภายในห้องโดยสารสีดำ โดยมีให้เลือก 3 รุ่น ได้แก่

  • รุ่น e:HEV TECH ราคา 1,799,000 บาท
  • รุ่น e:HEV EL+ ราคา 1,639,000 บาท
  • รุ่น EL ราคา 1,499,000 บาท

ฮอนด้า แอคคอร์ด มาพร้อมข้อเสนอพิเศษเพื่อให้ลูกค้าเป็นเจ้าของรถยนต์ได้ง่ายขึ้น สำหรับลูกค้าที่จองและรับรถยนต์ตั้งแต่วันที่ 16 สิงหาคม – 30 กันยายน 2564 รับดอกเบี้ย 0.99% สำหรับ แอคคอร์ด รุ่น e:HEV EL+ และ รุ่น e:HEV TECH หรือ ดอกเบี้ย 1.99% สำหรับแอคคอร์ด รุ่น EL โดยทุกรุ่นมาพร้อมฟรีประกันภัย 1 ปี

ลูกค้าที่สนใจสามารถสัมผัส ฮอนด้า แอคคอร์ด ได้ที่โชว์รูมฮอนด้า สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้จากที่ปรึกษาการขายโชว์รูมฮอนด้า หรือแชทกับที่ปรึกษาการขายทางออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ www.honda.co.th ติดต่อศูนย์บริการข้อมูลฮอนด้า 24 ชั่วโมง โทร.0-2341-7777 หรืออ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.honda.co.th/accord

หมายเหตุ

  • เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด
  • อุปกรณ์มาตรฐานแตกต่างกันในแต่ละรุ่น
  • สีภายในแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับสีภายนอก
  • สีขาวแพลทินัม (มุก) เพิ่ม 12,000 บาท และสีดำคริสตัล (มุก) เพิ่ม 8,000 บาท
  • ดูรายละเอียดข้อมูลการบำรุงรักษาตามระยะทางได้ที่ https://www.honda.co.th/service/periodical-maintenance

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องที่ต้องการถูกทำเครื่องหมาย *