อาทิตย์. พ.ย. 24th, 2024

โตโยต้าตะลุยเส้นทาง 5 ทวีป เพื่อสร้าง “ยนตรกรรมที่ดียิ่งกว่า” เพื่อวันนี้และวันพรุ่งนี้

บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ร่วมสร้างประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญในการร่วมเป็นหนึ่งในคาราวานโตโยต้าตะลุยเส้นทาง 5 ทวีป ภายใต้แนวคิด “การร่วมสร้างสรรค์ยนตรกรรมที่ดียิ่งกว่า เพื่อวันนี้และวันพรุ่งนี้” โดยจะทำการศึกษาเส้นทางไทยด้วยรถโตโยต้า 9 รุ่น ใน 15 จังหวัดของประเทศ ครอบคลุมระยะทาง 1,302 กิโลเมตร

โตโยต้ามีความมุ่งมั่นในการพัฒนาและสร้างสรรค์ยนตรกรรมที่ดียิ่งกว่า (Ever-Better Cars) เพื่อตอบสนองความต้องการและสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าได้อย่างเหนือความคาดหมาย โตโยต้าจึงทุ่มเทความพยายามเพื่อให้พนักงานของเราในฐานะผู้สร้างรถยนต์ นำความรู้สึกที่สัมผัสได้จากการขับบนท้องถนนจริงมาพัฒนารถยนต์ ตามหลักการทำงานของโตโยต้าที่เราเรียกว่า “เก็นจิ เก็นบุตซึ” (Genchi Genbutsu) คือการลงพื้นที่ไปพบกับสถานการณ์จริงด้วยตัวเอง และนำมาสร้างสรรค์เพื่อให้ได้มาซึ่ง “ยนตรกรรมที่ดียิ่งกว่า” ทั้งหมดนี้คือที่มาของโครงการ “โตโยต้าตะลุยเส้นทาง 5 ทวีป”

การเดินทางครั้งประวัติศาสตร์ในรูปแบบคาราวานครั้งนี้ได้เริ่มต้นในปี พ.ศ. 2557 ในทวีปออสเตรเลียต่อเนื่องไปยังทวีปอเมริกาเหนือในปี พ.ศ. 2558 ทวีปอเมริกาใต้ในปี พ.ศ. 2559 ต่อเนื่องไปยังทวีปยุโรปในปี พ.ศ. 2560 และทวีปแอฟริกาในปี พ.ศ. 2561 โดยครอบคลุมระยะทางทั้งสิ้น 99,400 กิโลเมตร ระยะเวลากว่า 400 วัน โดยมีพนักงานโตโยต้าและบริษัทในเครือเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางในครั้งนี้จำนวนกว่า 500 คน

มร.มิจิโนบุ ซึงาตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า จากการที่คนโตโยต้าได้มีโอกาสขับรถด้วยตนเอง รวมถึงได้ขับผ่านถนนเส้นต่าง ๆ ทั่วโลกทำให้พวกเขาเรียนรู้เกี่ยวกับสภาพของถนนในพื้นที่ต่างๆในโลกนี้ได้มากขึ้น รวมถึงยังช่วยให้พวกเขาได้ขัดเกลาทักษะ โดยการนำความรู้สึกที่สัมผัสได้จากท้องถนนจริง มาพัฒนารถยนต์ และยังสามารถทำความเข้าใจเสียงจากลูกค้าของเราผ่านการโครงการนี้ โตโยต้าตระหนักดีว่าประสบการณ์เหล่านี้ เป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้เราสามารถพัฒนาและสร้างสรรค์ยนตรกรรมที่ดียิ่งกว่า (Ever-Better Cars) ซึ่งการพัฒนาเช่นนี้ไม่อาจเกิดขึ้นได้จากการนั่งทำงานในออฟฟิศหรือจากการขับรถบนสนามทดสอบรถยนต์ จึงเป็นการเน้นย้ำถึงปรัชญาที่เราเชื่อมั่นว่า “ท้องถนนฝึกปรือฝีมือคน และคนคือผู้สร้างสรรค์รถยนต์”

ในปีนี้ทวีปเอเชียจะเป็นทวีปสุดท้าย บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย และบริษัทในเครือ มีความภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ “โตโยต้าตะลุยเส้นทาง 5 ทวีป” โดยการเดินทางครั้งสำคัญในทวีปเอเชียครั้งนี้ได้เริ่มต้นที่ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ซึ่งครอบคลุมระยะทางทั้งสิ้น 12,000 กิโลเมตร รวมระยะเวลากว่า 80 วัน โดยขับผ่านท้องถนนใน 14 ประเทศของเอเชียและในปีหน้าทีมคาราวานจะเดินทางผ่านพื้นที่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกและสิ้นสุดการเดินทางที่ประเทศญี่ปุ่นซึ่งถือเป็นจุดหมายปลายทางสุดท้าย โดยตั้งใจที่จะให้โครงการนี้เสร็จสิ้นทันช่วงของการจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก โตเกียว พ.ศ. 2563

สำหรับในประเทศไทย เราจะเริ่มต้นการเดินทางที่จังหวัดเชียงใหม่ ต่อเนื่องไปจนจบที่จังหวัดฉะเชิงเทรา โดยจะเดินทางผ่านพื้นที่ 15 จังหวัด ครอบคลุมระยะทาง 1,302 กิโลเมตร ภายในเวลา 8 วัน โดยมีพนักงานโตโยต้าทั้งจากประเทศญี่ปุ่นและประเทศไทยทั้งหมด 36 คนเข้าร่วมโครงการ สำหรับการเดินทางในประเทศไทย จะมีรถโตโยต้าทั้งหมด 9 รุ่น ได้แก่ ไฮลักซ์ รีโว่ และร็อคโค่ ฟอร์จูนเนอร์ อินโนว่า เซียนต้า เอทีฟ อีกทั้งยังมีอีก 3 รุ่นที่เป็นรถเครื่องยนต์ไฮบริด ได้แก่ ซี-เอชอาร์ คัมรี และโคโรลล่า อัลติส โดยผู้ที่รับหน้าที่ขับรถยนต์ทุกคันก็คือ พนักงานของเราที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญในด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และพวกเขาคือคนที่ทุ่มเทกำลังความสามารถเพื่อทำความเข้าใจสถานการณ์ในการขับขี่และสภาวะแวดล้อมต่างๆ ในประเทศไทยอย่างถ่องแท้ อีกทั้งเรายังจะใช้โอกาสนี้ในการเข้าพบกับผู้แทนจำหน่ายและลูกค้าโตโยต้าเพื่อรับฟังความคิดเห็นและพยายามเข้าใจในความต้องการที่แท้จริงของพวกเขา ประสบการณ์ทั้งหลายที่ผู้เข้าร่วมการเดินทางครั้งนี้ได้พบเจอด้วยตนเองจะถูกกลั่นกรองและสะท้อนออกมาให้เห็นผ่านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของเราต่อไป

ทุกท่านคงจะได้เห็นคำที่เขียนด้วยมือว่า “Smile” ที่อยู่บนหน้าต่างของรถไฮลักซ์ รีโว่ ซึ่งเซ็นโดย คุณอากิโอะ โตโยดะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น ผมเชื่อมั่นว่าสิ่งนี้จะเป็นกำลังใจให้ผู้ร่วมเดินทางทุกคนที่เดินทางขับรถในประเทศไทยหรือที่เรารู้จักกันดีว่า “ดินแดนแห่งรอยยิ้ม” ซึ่งคุณอากิโอะ โตโยดะ ได้บอกกับเราว่าที่มาของวิสัยทัศน์ขององค์กรระดับโลกที่ว่า “เราจะมุ่งมั่นนำเสนอในสิ่งที่เหนือความคาดหวังของลูกค้า เพื่อให้ได้มาซึ่งรอยยิ้ม” ได้รับแรงบันดาลใจมาจากประเทศไทยนั่นเอง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องที่ต้องการถูกทำเครื่องหมาย *