อาทิตย์. พ.ย. 24th, 2024

เนสท์เล่ เดินหน้าลดขยะพลาสติก

บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด ผู้นำด้านอาหารและเครื่องดื่มของประเทศ เริ่มใช้ 3 บรรจุภัณฑ์รักษ์โลกกับผลิตภัณฑ์เนสกาแฟ ตอกย้ำพันธกิจระดับโลกของเนสท์เล่ที่มุ่งมั่นเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ทั้งหมดให้สามารถรีไซเคิลหรือนำกลับมาใช้ใหม่ได้ 100% ภายในปี 2025 พร้อมตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคชาวไทยในการมองหาบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น โดยได้เริ่มใช้ 3 บรรจุภัณฑ์รักษ์โลกอันได้แก่ เนสกาแฟ โพรเทค โพร สลิม ที่ได้เปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ภายนอกเป็นซองกระดาษ เนสกาแฟกระป๋องลาเต้และแบล็ค ไอซ์ในกระป๋องอลูมิเนียมที่สามารถรีไซเคิลได้ 100% และแก้วไบโอคัพ (BioCup) ในร้านเนสกาแฟ ฮับที่สามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ โดยบรรจุภัณฑ์เหล่านี้ได้เริ่มใช้ในกลุ่มธุรกิจเนสกาแฟ ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดของเนสท์เล่ในประเทศไทย พร้อมตอกย้ำเจตนารมณ์ขององค์กรในการเพิ่มพูนคุณภาพชีวิต เสริมสร้างสุขภาพดีสู่อนาคต (Enhancing quality of life and contributing to a healthier future)

นายวิคเตอร์ เซียห์ ประธานกรรมการและประธานคณะผู้บริหาร เนสท์เล่ อินโดไชน่า กล่าวว่า “การรับมือกับปัญหาขยะพลาสติกได้กลายเป็นความท้าท้ายด้านสิ่งแวดล้อมครั้งใหญ่ที่ทั้งประเทศไทยและทั่วโลกกำลังเผชิญ เพื่อจัดการกับปัญหานี้ เนสท์เล่ได้พยายามอย่างเต็มที่ในการบริหารจัดการอย่างเป็นองค์รวมภายใต้หลัก 3R ได้แก่ การลดการใช้ (Reduce) การนำกลับมาใช้ซ้ำ (Reuse) และการรีไซเคิล (Recycle) ซึ่งสอดคล้องกับพันธกิจระดับโลกของเราในการเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ทั้งหมดให้สามารถรีไซเคิลหรือนำกลับมาใช้ใหม่ได้ 100% ภายในปี 2025 ภายใต้วิสัยทัศน์ที่จะต้องไม่มีวัสดุและพลาสติกจากบรรจุภัณฑ์ของเนสท์เล่ที่ต้องกำจัดด้วยการฝังกลบหรือกลายเป็นขยะ”

“เพราะธุรกิจกาแฟคือธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดของเราและเป็นผู้นำตลาดในประเทศ การเริ่มใช้บรรจุภัณฑ์รักษ์โลกกับผลิตภัณฑ์เนสกาแฟ จึงเป็นการช่วยสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับการลดปริมาณขยะพลาสติกแก่ผู้บริโภคชาวไทยรวมทั้งเพิ่มการนำบรรจุภัณฑ์ของเราไปรีไซเคิล พร้อมๆ กับการตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น”

3 บรรจุภัณฑ์รักษ์โลกของเนสกาแฟ ได้แก่ 1) เนสกาแฟ โพรเทค โพรสลิม ที่เปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ภายนอกเป็นซองกระดาษ ซึ่งเริ่มใช้ในประเทศไทยเป็นที่แรกของโลก โดยจะช่วยลดปริมาณขยะพลาสติกที่ใช้ในการผลิตบรรจุภัณฑ์ได้ถึง 9 ตันต่อปี ทั้งนี้ กระดาษที่นำมาใช้ผลิตบรรจุภัณฑ์ยังได้รับการรับรองจาก Forest Stewardship Council (FSC™) ว่าตลอดกระบวนการผลิตกระดาษนั้นมีการจัดการป่าไม้อย่างยั่งยืนตามหลักการที่เป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติอีกด้วย 2) เนสกาแฟกระป๋องลาเต้และแบล็ค ไอซ์ในกระป๋องอลูมิเนียมที่สามารถรีไซเคิลได้ 100%โดยได้เปลี่ยนบรรจุภัณฑ์จากดีบุกมาเป็นอลูมิเนียม จึงสามารถนำมารีไซเคิลได้ 100% ทั้งยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น และ 3) แก้วไบโอคัพ (BioCup) รวมทั้งฝาปิดและหลอดที่สามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ 100% ซึ่งได้นำมาใช้แล้วที่ร้านเนสกาแฟฮับ โดยทั้งหมดจะสามารถย่อยสลายกลับคืนสู่ธรรมชาติภายใน 180 วันหลังจากการทิ้ง ซึ่งได้รับการรับรองด้วยมาตรฐาน ASTM D6400 และ EN 13432 ทั้งยังใช้งานง่ายและสะดวก สามารถใส่ได้ทั้งเครื่องดื่มร้อนและเย็นเหมือนกับแก้วพลาสติกแบบเดิม รวมทั้งยังช่วยลดต้นทุนในการจัดการขยะ ทั้งนี้ ที่ร้านเนสกาแฟฮับยังได้เชิญชวนให้ผู้บริโภคนำแก้วกาแฟของตนเองมาใช้บริการ เพื่อรับสิทธิพิเศษต่างๆ มากมาย อาทิ การรับส่วนลดเพิ่ม 5 บาทต่อแก้ว การเปิดตัว 3 บรรจุภัณฑ์รักษ์โลกของเนสกาแฟครั้งนี้ นับเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการเดินหน้าเพื่อเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ทั้งหมดของเนสท์เล่ให้สามารถรีไซเคิลหรือนำกลับมาใช้ได้ 100% เพื่อสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน

ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการลดขยะพลาสติกกับ 3 บรรจุภัณฑ์รักษ์โลกของเนสกาแฟ ได้แก่ เนสกาแฟ โพรเทค โพรสลิม ซึ่งวางจำหน่ายในขนาด 4 ซอง ราคา 50 บาท และ ขนาด 17 ซอง ในราคา 180 บาท ที่ซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำและร้านค้าสะดวกซื้อทั่วประเทศ ส่วนเนสกาแฟกระป๋องลาเต้และแบล็ค ไอซ์ในกระป๋องอลูมิเนียม จะเริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่เดือนกันยายนนี้เป็นต้นไป และร่วมสนับสนุนการใช้แก้วไบโอคัพ (BioCup) ที่ร้านเนสกาแฟฮับทั้ง 4 สาขาได้แก่ สาขารถไฟฟ้าบีทีเอสชิดลม สาขารถไฟฟ้าบีทีเอสเอกมัย สาขารถไฟฟ้าบีทีเอสอารีย์ และสาขารถไฟฟ้าบีทีเอสสนามกีฬาแห่งชาติได้แล้ววันนี้
 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องที่ต้องการถูกทำเครื่องหมาย *