เอสซีลอร์ เดินหน้าทุ่มงบวิจัยและพัฒนาเลนส์กว่า 7 พันล้านบาท
บริษัท เอสซีลอร์ ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำระดับโลกด้านการออกแบบ การผลิต และการประกอบเลนส์แว่นตาจากฝรั่งเศสที่ได้รับความนิยมอันดับ 1 ทั่วโลก ประกาศทุ่มงบลงทุนกว่า 7 พันล้านบาทในส่วนงานวิจัยและพัฒนานวัตกรรมเลนส์ เพื่อให้ครอบคลุมทุกปัญหาสายตาและตอบโจทย์ความต้องการของคนรุ่นใหม่ทุกรูปแบบ การทุ่มงบลงทุนครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งในวิสัยทัศน์ของบริษัทเพื่อการมอบทัศนวิสัยการมองเห็นที่ดีแก่ผู้คนทั่วโลก ผ่านการนำเสนอเทคโนโลยีและนวัตกรรมเลนส์ที่ทันสมัยซึ่งสามารถปกป้องดวงตาและแก้ไขทุกปัญหาที่สร้างผลกระทบในการใช้สายตาของทุกคน
ปัจจุบัน คนไทยส่วนใหญ่ยังไม่ได้ให้ความสำคัญกับการเลือกเลนส์สายตามากเท่าที่ควร ส่วนใหญ่เน้นไปที่กรอบแว่นที่ดูสวยงามทันสมัย ซึ่งแตกต่างจากคนในยุโรปและอเมริกาที่มีความพิถีพิถันในการเลือกเลนส์สายตาที่มาจากแบรนด์ชั้นนำที่เชื่อถือได้เท่านั้นเพราะมีคุณสมบิติที่ครบถ้วน สามารถช่วยแก้ไขความผิดปกติของสายตา ปกป้องดวงตาจากรังสีอันตรายชนิดต่าง ๆ และป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้ เพราะการสวมใส่เลนส์สายตาที่ไม่ได้มาตรฐานอาจเป็นอันตรายต่อดวงตาอย่างที่เราคาดไม่ถึงเลยทีเดียว
นายทฤษฎี ตุลยอนุกิจ กรรมการผู้จัดการภาคพื้นอินโดไชน่า กล่าวว่า “การผลิตเลนส์เพื่อแก้ไขปัญหาสายตาต้องอาศัยกระบวนการที่ละเอียดอ่อน โดยขึ้นอยู่กับทักษะและเทคโนโลยีของผู้ผลิต แม้ข้อผิดพลาดที่เล็กที่สุดก็อาจส่งผลกระทบอย่างมหาศาลต่อคุณภาพการมองเห็นของผู้สวมใส่ ทำให้ในแต่ละปี เอสซีลอร์ทุ่มงบประมาณกว่า 7 พันล้านบาท สำหรับการคิดค้นวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีเลนส์สายตาอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทมีทีมวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ของตัวเองเพื่อการค้นคว้าและสร้างสรรค์นวัตกรรมเลนส์ที่หลากหลายให้ตอบโจทย์ของผู้ที่มีปัญหาด้านสายตาได้อย่างครอบคลุม ผู้สวมใส่เลนส์เอสซีลอร์จึงมั่นใจได้ว่าจะมีทัศนวิสัยที่ชัดเจนและความสบายตาเมื่อสวมใส่ โมเดลการค้นคว้าวิจัยของเอสซีลอร์เป็นแบบ LiveOptics ในห้องปฏิบัติการที่ทันสมัย มีการสร้างจำลองโครงสร้างเสมือนจริงแบบ Avatar เพื่อผลิตเลนส์ต้นแบบและทดสอบกับผู้สวมใส่จริงในกิจกรรมประจำวันก่อนวางจำหน่าย เพื่อมอบประสบการณ์การมองเห็นที่ดีเยี่ยมผ่านการนำเสนอเลนส์แว่นตาคุณภาพสูงสู่ผู้คนทั่วโลก”
นายณัฐวุฒิ พึงเจริญพงศ์ ผู้นำด้าน Tech Startup ของเมืองไทย และเจ้าของแอปพลิเคชัน Ookbee กล่าวว่า “ด้วยไลฟ์สไตล์การทำกิจกรรมที่หลากหลายในแต่ละวันของผม ไม่ว่าจะเป็นขับรถ ใช้สมาร์ทโฟน ทำงานผ่านโน้ตบุ๊ก ประชุมออนไลน์ ล้วนต้องการวิสัยทัศน์ความคมชัดทั้งสิ้น เมื่ออายุเข้าสู่เลข 4 การมองเห็นที่ดีก็ยิ่งกลายเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เลนส์โปรเกรสซีฟเป็นคำตอบที่ดีที่สุดที่มอบการมองเห็นชัดเจนในทุกระยะและยังสะดวกสบายกับทุกกิจกรรมเพราะไม่ต้องคอยสลับแว่นตาหลายอันระหว่างวัน ทำให้ผมมีความสุขและทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ต้องยอมรับว่าเทคโนโลยีเลนส์ของเอสซีลอร์ไปไกลมากจริง ๆ นอกจากมีเลนส์ที่ดีแล้ว กรอบแว่นตาก็เป็นอีกปัจจัยที่ช่วยเสริมลุคให้ดูดีทันสมัยและเพิ่มความสบายในการสวมใส่ อย่างแบรนด์โบลอน ก็ถือเป็นแบรนด์แว่นตาแฟชั่นที่ช่วยสะท้อนความเป็นตัวตนของผมได้เป็นอย่างดี”
นายไผท ผดุงถิ่น ผู้พลิกวงการธุรกิจสตาร์ทอัพการก่อสร้าง ด้วยโปรแกรมควบคุมต้นทุน BUILK กล่าวว่า “ผมเชื่อว่าหลายคนกำลังเผชิญกับปัญหาตาล้า ตาพร่า ซึ่งเป็นปัญหาสายตาของคนยุคใหม่ ผมก็เป็นหนึ่งในนั้นเช่นกัน เพราะต้องใช้ชีวิตอยู่กับหน้าจอวันละหลายชั่วโมงจนสายตาไม่สามารถโฟกัสได้ดีเหมือนเดิม จนมาเจอกับเลนส์ Eyezen ของเอสซีลอร์ที่ช่วยผ่อนคลายและปกป้องดวงตาจากแสงสีน้ำเงินจากอุปกรณ์ดิจิทัลต่าง ๆ และลดโอกาสการเกิดโรคตาในอนาคต นอกจากกิจกรรมในอาคารแล้ว ผมยังต้องเดินตรวจไซต์งานเป็นประจำ การมีเทคโนโลยีทรานซิชั่นส์ (Transitions) เลนส์เปลี่ยนสีเข้มอัตโนมัติตามสภาพแสง UV ยิ่งทำให้สะดวกมากขึ้น ยิ่งใช้คู่กับกรอบแว่นโบลอนที่มีน้ำหนักเบา ก็ยิ่งสวมใส่ได้สบายตลอดวันครบจบในแว่นอันเดียว แถมมอบลุคกวน ๆ ในแบบฉบับผมได้ดีอีกด้วย”
“นอกจากเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเลนส์สายตาแล้ว เอสซีลอร์ยังนำเข้ากรอบแว่นตาหลายแบรนด์เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค ทั้งกรอบแบรนด์ High end อย่าง Gucci, Bottega Veneta, Cartier, Saint Laurent, Bvlgari และ Versace หรือแนว Fast Fashion อย่างโบลอน (Bolon) ที่มีคุณญาญ่า-อุรัสยา เสปอร์บันด์ เป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ จนเป็นที่ฮอตฮิตในหมู่บล็อกเกอร์และ Trend setter ของเมืองไทย จุดเด่นของโบลอนคือการออกแบบที่สวยงามทันสมัย ทำให้ผู้สวมใส่รู้สึกว่าการใส่แว่นเหมือนใส่เครื่องประดับอย่างหนึ่ง ที่สำคัญคือมีน้ำหนักเบาและราคาจับต้องได้ เรียกว่าตอบโจทย์คนที่มีปัญหาด้านสายตาแต่ไม่ต้องการใส่แว่นเชย ๆ อีกต่อไป” นายทฤษฎี ตุลยอนุกิจ กล่าวเสริม