ศุกร์. พ.ย. 22nd, 2024

‘มิชลิน’ ประเดิมต้นปีด้วยการคว้ารางวัลเทคโนโลยียางรถยนต์ ติดต่อกัน 2 ปีซ้อนเป็นครั้งแรก

มิชลิน ประเดิมต้นปี 2563 ด้วยการคว้ารางวัล “ผู้ผลิตยางรถยนต์แห่งปี” อันทรงเกียรติติดต่อกัน 2 ปีซ้อน ในงานมหกรรมแสดงสินค้าเทคโนโลยีเกี่ยวกับยางล้อ (Tire Technology Expo) ณ เมืองฮันโนเวอร์ ประเทศเยอรมนี นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์การมอบรางวัลนี้ซึ่งมีมาตั้งแต่ปี 2551

ทั้งนี้ คณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในภาคอุตสาหกรรมยางรถยนต์ทั่วโลก ซึ่งประกอบด้วยผู้ผลิตยางล้อ ผู้ผลิตยานยนต์ นักวิชาชีพในมหาวิทยาลัย และนักวิจัยในแวดวงอุตสาหกรรม ได้พิจารณามอบรางวัล “ผู้ผลิตยางรถยนต์แห่งปี” ให้แก่ทีมงานของมิชลินเพื่อเชิดชูเกียรติในความมุ่งมั่นสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการที่มีความเป็นนวัตกรรมใหม่ ให้สมรรถนะเป็นเยี่ยม เข้าถึงได้ง่ายมากขึ้น และมีความยั่งยืน ซึ่งเป็น 4 ประเด็นท้าทายหลักที่มิชลินประสบความสำเร็จในการตอบโจทย์อย่างสมบูรณ์ด้วยการออกแบบผลิตภัณฑ์ยางให้มีความปลอดภัยมากขึ้น ทั้งเมื่อยางใหม่และผ่านการใช้งานมานานหลายปีหรือหลายพันกิโลเมตร

รางวัลนี้มอบให้เพื่อยกย่องความก้าวหน้าที่โดดเด่นของมิชลินในการรังสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ให้สมรรถนะสูงตลอดอายุใช้งาน ตลอดจนเจตนารมณ์อันมุ่งมั่นของกลุ่มมิชลินในการนำยางที่ผ่านการใช้งานแล้วมาทดสอบสมรรถนะ ซึ่งเจตนารมณ์ดังกล่าวปัจจุบันได้รับการสานต่อโดยภาคอุตสาหกรรมยางรถยนต์และผู้ออกกฎหมายในยุโรปซึ่งเตรียมที่จะออกกฎหมายให้การทดสอบยางที่ผ่านการใช้งานแล้วเป็นกฎหมายภาคบังคับในปี 2567

ยาง ‘มิชลิน อัพทิส’ รุกกวาดรางวัลอันทรงเกียรติอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดคว้ารางวัล “สุดยอดนวัตกรรมทางเทคโนโลยียางรถยนต์”

นอกเหนือจากการกวาดรางวัลอันทรงเกียรติมากมายมาครองในปี 2562  ล่าสุด ‘มิชลิน อัพทิส’ ยางไร้ลมพร้อมระบบป้องกันการแตกรั่วซึมที่มิชลินคิดค้นพัฒนาขึ้น ยังได้รับเลือกให้คว้ารางวัล “สุดยอดนวัตกรรมด้านเทคโนโลยียางรถยนต์ประจำปี 2563” (Tire Technology 2020 Innovation Award) ด้วย

นับตั้งแต่ต้นแบบยาง ‘มิชลิน อัพทิส’ เปิดตัวในปี 2562 ก็ได้รับรางวัลยอดเยี่ยมด้านความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีมาอย่างต่อเนื่อง การที่ยางรุ่นนี้ปลอดความเสี่ยงต่อการถูกบาดตำจนยางแตกรั่วซึม ทำให้มีข้อได้เปรียบหลายประการที่ช่วยให้ผู้ขับขี่รู้สึกปลอดภัยระหว่างเดินทาง ช่วยให้ผู้จัดการธุรกิจเดินรถขนส่งและนักขับรถมืออาชีพมีผลิตภาพทางธุรกิจเพิ่มขึ้น ทั้งยังช่วยลดการใช้วัตถุดิบซึ่งนำไปสู่การลดขยะและส่งเสริมให้เกิดการสัญจรอย่างยั่งยืน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องที่ต้องการถูกทำเครื่องหมาย *